(สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ . 2545) ได้ให้ความหมายของ ศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทย หมายถึง การจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย อันได้แก่ความรู้ในการเข้าใจชีวิตธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สังคม และความรู้ในการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
1. บทบาทและหน้าที่ของศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทย
1.1 เป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดองค์ความรู้การศึกษาทั้งใน ระบบโรงเรียน การศึกษานอกระบบโรงเรียน และการศึกษาตามอัธยาศัย
1.2 เป็นศูนย์ประสานเครือข่ายภูมิปัญญาไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนและพัฒนาการเรียนรู้ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
1.3 เป็นศูนย์คลังข้อมูลภูมิปัญญาไทย
2. ประเภทของศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทย
ศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยนั้นตามลักษณะของการเรียนแล้วสามารถแบ่งออกได้ เป็น 4 รูปแบบคือ
2.1 ศูนย์การเรียนครอบครัว
การถ่ายทอดและสืบทอดภูมิปัญญาแห่งแรก คือ ครอบครัว จากพ่อ – แม่สู่ลูก สู่พี่น้องเครือญาติใกล้ชิด ถ่ายถอดแก่กันและกันเพื่อสืบทอดภูมิปัญญาไว้ ความรู้หลายอย่างไม่มีการเผยแพร่ให้ผู้อื่นเพราะเป็น “มรดก” ของวงศ์ตระกูล เช่นความรู้เรื่องการรักษาโรค ยาสมุนไพร ศิลปะการแสดง ศิลปหัตถกรรมต่าง ๆ เป็นต้น ส่วนใหญ่จะมี “เคล็ดลับ” เก็บไว้ถ่ายทอดให้ผู้ที่ตนต้องการให้เป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญานี้เท่านั้น
ในการถ่ายทอดนั้นมีหลายประการที่ไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเป็นการถ่ายทอดหรือเป็นการสืบทอด เพราะเป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เช่น พ่อสอนลูกให้ไถนา สอนให้ทำเกวียนดูว่าพ่อทำอย่างไรแล้วเลียนแบบพ่อ เป็นต้น
2.2 ศูนย์การเรียนวัดและชุมชน
วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ศูนย์กลางการจัดกิจกรรมนานาประการทั้งที่เป็นกิจกรรมทางศาสนา ศาสนาพิธี พิธีกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการจัดงานตามประเพณี เช่น ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน การทำบุญเนื่องในโอกาสสำคัญ รวมไปถึงกิจกรรมทางสังคมของส่วนรวมพระภิกษุเป็นผู้ริเริ่ม เป็นผู้ประสาน ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดกิจกรรม ดังจะเห็นได้จาก วัดทำหน้าที่เป็นสุขศาลา ดูแลรักษาคนเจ็บป่วย รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการพบปะชุมชนของสมาชิกในชุมชน
ผู้นำฝ่ายสงฆ์ และผู้นำฝ่ายฆราวาสต่างมีความสำคัญในฐานะที่เป็น”ครู” แม้อาจจะไม่ได้เป็นผู้ถ่ายทอดเองโดยตรง แต่ก็ทำหน้าที่กำกับดูแลการจัดพิธีกรรมต่าง ๆ ให้ถูกต้อง ซึ่งพิธีกรรมเหล่านี้ต้องอาศัยผู้มีความรู้ความชำนาญปฏิบัติได้ไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม
2.3 ศูนย์การเรียนครูเจ้าสำนัก
การถ่ายทอดภูมิปัญญาที่เด่นชัดที่สุดคือ การถ่ายทอดโดยบุคคลซึ่งเป็นผู้รู้ ผู้ชำนาญให้แก่บุคคลอื่น ลูกศิษย์อาจเป็นลูกหลานหรือผู้สนใจสมัครเป็น “ศิษย์” ครูเองก็ได้รับการถ่ายทอดจาก “ครู” ของตนมาในลักษณะเดียวกัน ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆได้เป็นอย่างดี
การรับเป็นครูและศิษย์จะเริ่มด้วยพิธีกรรม ที่เรียกว่า “ยกครู” อันเป็นเครื่องหมายสำคัญของความสัมพันธ์ ซึ่งมีความลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะครูจะเป็นผู้ถ่ายทอดไม่เพียงแต่ทักษะหรือวิธีการต่าง ๆ ให้เท่านั้น แต่จะถ่ายทอด “จิตวิญญาณ” ให้แก่ศิษย์ ศิษย์ที่เก่งและดีจริงจะสามารถสืบทอด “ทุกอย่าง” จากครู ทั้งในเรื่องทักษะ เนื้อหา รูปแบบ และจิตวิญญาณของเรื่องนั้น ๆ ด้วยเหตุนี้ กระบวนการถ่ายทอดของครูและกระบวนการสืบทอดของศิษย์จึงมิใช่เพียงการนั่งฟังคำสอนจากครูหากแต่เป็นการเรียนรู้จากชีวิตจริง ปฏิบัติจริงร่วมกับครู ถ้าเป็นด้านศิลปะการแสดงก็หมายถึง การได้ติดสอยห้องตามครูไปทุกแห่ง โดยเริ่มจากการรับใช้ครู จึงไม่แปลกที่ศิษย์ในอดีตจะตักน้ำ ตำข้าว กวดบ้าน ถูเรือน และทำงานทุกอย่างที่บ้านครูประหนึ่ง “ลูก” หรือสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวของครูนั่นทีเดียว
2.4 เครือข่ายศูนย์การเรียนรู้ใหม่ของชุมชน
การรวมกลุ่มเพื่อจัดการทรัพยากร จัดการผลผลิตจัดการทุนของตนเองจำเป็นต้องมีการเรียนรู้ใหม่ การเรียนรู้ภายในชุมชน จากผู้รู้ในชุมชนเท่านั้นไม่เพียงพอ ต้องอาศัยการเรียนรู้จากผู้รู้ภายนอกหรือจากการไปศึกษาดูงาน จากการประชุมสัมมนา การฝึกงาน และการทดลองปฏิบัติ
จากที่กล่าวมาสรุปได้ว่า ศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทย หมายถึง การจัดการเรียนรู้ในท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นของไทยโดยมีครูภูมิปัญญาไทยเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และสามารถถ่ายทอดความรู้ได้หลายแบบขึ้นอยู่กับศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยนั้นด้วย
3. กระบวนการจัดตั้งศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยของแม่ครูราตรี ศรีวิไล
3.1 ความเป็นมาและวัตถุประสงค์
ศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยด้านศิลปกรรมการแสดงพื้นบ้าน(หมอลำ) แม่ครูราตรีศรีวิไล
ได้ จัดตั้งขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และสนองนโยบาย ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีนโยบายในการจัดตั้งศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยแม่ครูราตรี ศรีวิไล หลากหลายสาขา ทั่วประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ของภูมิปัญญา
ศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทย แม่ครูราตรีศรีวิไลแห่งนี้ เป็นคลังสมองหรือคลังแห่งความรู้ที่รวบรวมข้อมูลทางทฤษฎี และทางปฏิบัติในด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน (การแสดงหมอลำกลอน ลำกลอนประยุกต์ (ลำซิ่ง) หมอแคน ดนตรีประกอบลำ รวมทั้งการประพันธ์กลอนลำ) โดยเน้นถึงการให้ความรู้ทางด้านการศึกษาศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน จัดอยู่ในรูปแบบของการถ่ายทอด ให้ผู้ศึกษาได้มีความรู้ นำไปปฏิบัติเป็นอาชีพ มีงานทำตลอดจนการสืบสานและเผยแพร่ต่อ
โดยศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยแม่ครูราตรี ศรีวิไล ได้จำแนกการเรียนการสอนออกเป็น 5ประเภท เช่น หมอลำกลอน ลำกลอนประยุกต์ (ลำซิ่ง) หมอแคน หางเครื่อง ดนตรีประกอบหมอลำ และการประพันธ์กลอน โดยมีหลักการ ดังนี้
1. เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมศิลปะการแสดงพื้นบ้านหมอลำ–ดนตรีพื้นบ้านอีสาน รวมทั้งภาษาและวรรณกรรมพื้นบ้านอีสาน
2. เพื่อสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงกับองค์กรต่าง ๆ
3. เพื่อสร้างอาชีพให้แก่เยาวชนและคนอีสานทั่วไป
4. เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่เยาวชนคนไทย ได้สำนึกถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมอันเป็นประเพณีพื้นบ้านอีสานและเป็นมรดกเก่าแก่มาแต่ครั้งบรรพบุรุษให้คงอยู่สืบต่อไป
3.2 แผนงานและโครงการของศูนย์
3. เพื่อสร้างอาชีพให้แก่เยาวชนและคนอีสานทั่วไป
4. เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่เยาวชนคนไทย ได้สำนึกถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมอันเป็นประเพณีพื้นบ้านอีสานและเป็นมรดกเก่าแก่มาแต่ครั้งบรรพบุรุษให้คงอยู่สืบต่อไป
3.2 แผนงานและโครงการของศูนย์
3.2.1 จัดตั้งศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทย ด้านศิลปกรรมการแสดงพื้นบ้าน(หมอลำ)
3.2.2 จัดตั้งพิพิธภัณฑ์การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน
3.2.3 รวบรวมเครื่องดนตรีประกอบการแสดงหมอลำ
3.2.4 เป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับศิลปะการแสดงพื้นบ้าน(หมอลำ)
3.2.5 จัดพิมพ์หนังสือและเอกสารกลอนลำต่าง ๆ และหนังสือคู่มือการเรียนการสอนหมอลำ (เรียนประจำและทางไปรษณีย์)
3.2.6 เป็นศูนย์กลางความรู้เกี่ยวกับวรรณกรรมพื้นบ้าน
3.2.7 จัดนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปะการแสงดพื้นบ้านอีสาน
3.2.8 เพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยการจัดรายการวิทยุ-ทีวี และการบันทึกเสียงและภาพรูปแบบ ซีดีและวีซีดี
3.2.9 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกทุกระดับและองค์กรต่าง ๆ ได้ร่วมกันสืบสานภูมิปัญญาด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน
3.3 สถานที่ตั้งศูนย์
ตั้งอยู่ที่ในบริเวณบ้านของแม่ครูราตรี ศรีวิไล เลขที่ 41/60 ซอยหมู่บ้านเสรี ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000 โทรศัพท์/โทรสาร 043-243070 , 081-8715868 โดยมีอาคาร ห้องชมผลงาน ห้องซ้อมดนตรี ห้องซ้อมเต้น หอพักนักเรียน ห้องบันทึกเสียง ลานซ้อมแสดงจริง เป็นต้น
3.4 คณะกรรมการที่ปรึกษา
3.4.1 พ่อครูเคน ดาเหลา (ศิลปินแห่งชาติ) ประธานกรรมการ
3.4.2 นายบุญเกิด พิมพ์วรเมธากุล รองประธานกรรมการ
3.4.3 อาจารย์ประมวล พิมพ์เสน กรรมการที่ปรึกษา
3.4.4 รองศาตราจารย์อุดม บัวศรี กรรมการที่ปรึกษา
3.2.2 จัดตั้งพิพิธภัณฑ์การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน
3.2.3 รวบรวมเครื่องดนตรีประกอบการแสดงหมอลำ
3.2.4 เป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับศิลปะการแสดงพื้นบ้าน(หมอลำ)
3.2.5 จัดพิมพ์หนังสือและเอกสารกลอนลำต่าง ๆ และหนังสือคู่มือการเรียนการสอนหมอลำ (เรียนประจำและทางไปรษณีย์)
3.2.6 เป็นศูนย์กลางความรู้เกี่ยวกับวรรณกรรมพื้นบ้าน
3.2.7 จัดนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปะการแสงดพื้นบ้านอีสาน
3.2.8 เพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยการจัดรายการวิทยุ-ทีวี และการบันทึกเสียงและภาพรูปแบบ ซีดีและวีซีดี
3.2.9 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกทุกระดับและองค์กรต่าง ๆ ได้ร่วมกันสืบสานภูมิปัญญาด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน
3.3 สถานที่ตั้งศูนย์
ตั้งอยู่ที่ในบริเวณบ้านของแม่ครูราตรี ศรีวิไล เลขที่ 41/60 ซอยหมู่บ้านเสรี ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000 โทรศัพท์/โทรสาร 043-243070 , 081-8715868 โดยมีอาคาร ห้องชมผลงาน ห้องซ้อมดนตรี ห้องซ้อมเต้น หอพักนักเรียน ห้องบันทึกเสียง ลานซ้อมแสดงจริง เป็นต้น
3.4 คณะกรรมการที่ปรึกษา
3.4.1 พ่อครูเคน ดาเหลา (ศิลปินแห่งชาติ) ประธานกรรมการ
3.4.2 นายบุญเกิด พิมพ์วรเมธากุล รองประธานกรรมการ
3.4.3 อาจารย์ประมวล พิมพ์เสน กรรมการที่ปรึกษา
3.4.4 รองศาตราจารย์อุดม บัวศรี กรรมการที่ปรึกษา
3.4.5 ผู้ช่วยศาตราจารย์ชอบ ดีสวนโคก กรรมการที่ปรึกษา
3.4.6 ผู้ช่วยศาตราจารย์เจริญชัย ชนไพโรจน์ กรรมการที่ปรึกษา
3.4.7 ผู้ช่วยศาตราจารย์ทรงวิทย์ พิมพะกรรณ์ กรรมการที่ปรึกษา
3.4.8 อาจารย์สุรพล เนสุสินธุ์ กรรมการที่ปรึกษา
3.4.9 นายประพันธ์ พลอยพุ่ม กรรมการที่ปรึกษานายสวัสดิ์
3.4.10 นายสวัสดิ์ อรรคนิต กรรมการที่ปรึกษา (ประธานชุมชน)
3.5 คณะวิทยากรและกรรมการดำเนินงาน
3.5.1 แม่ครูราตรีศรีวิไล บงสิทธิพร ผู้อำนวยการศูนย์ ฯ
3.5.2 คุณพ่อวิชิต บงสิทธิพร ครูผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ ฯ
3.4.6 ผู้ช่วยศาตราจารย์เจริญชัย ชนไพโรจน์ กรรมการที่ปรึกษา
3.4.7 ผู้ช่วยศาตราจารย์ทรงวิทย์ พิมพะกรรณ์ กรรมการที่ปรึกษา
3.4.8 อาจารย์สุรพล เนสุสินธุ์ กรรมการที่ปรึกษา
3.4.9 นายประพันธ์ พลอยพุ่ม กรรมการที่ปรึกษานายสวัสดิ์
3.4.10 นายสวัสดิ์ อรรคนิต กรรมการที่ปรึกษา (ประธานชุมชน)
3.5 คณะวิทยากรและกรรมการดำเนินงาน
3.5.1 แม่ครูราตรีศรีวิไล บงสิทธิพร ผู้อำนวยการศูนย์ ฯ
3.5.2 คุณพ่อวิชิต บงสิทธิพร ครูผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ ฯ
3.5.3 หมอแคนโยพิกา ศรีวิไล ครูผู้ช่วยครูภูมิปัญญาไทย
(ครูหมอแคนและหางเครื่อง)
3.5.4 หมอลำชรินทร์ กาละพันธ์ กรรมการ(ครูหมอลำดูแลทั่วไป)
3.5.5 หมอลำประวิทย์ เพชรลำชี กรรมการ(ครูหมอลำดูแลฝ่ายหมอลำ)
3.5.6 หมอลำมานพ เพชรคลองลาน กรรมการ(ครูหมอลำฝ่ายชาย)
3.5.7 หมอลำพวงเพชร กาละพันธ์ กรรมการ(ครูหมอลำฝ่ายหญิง)
3.5.8 หมอแคนประเชิญ กาละพันธ์ กรรมการ(ครูดนตรีดูแลฝ่ายหมอแคน)
(ครูหมอแคนและหางเครื่อง)
3.5.4 หมอลำชรินทร์ กาละพันธ์ กรรมการ(ครูหมอลำดูแลทั่วไป)
3.5.5 หมอลำประวิทย์ เพชรลำชี กรรมการ(ครูหมอลำดูแลฝ่ายหมอลำ)
3.5.6 หมอลำมานพ เพชรคลองลาน กรรมการ(ครูหมอลำฝ่ายชาย)
3.5.7 หมอลำพวงเพชร กาละพันธ์ กรรมการ(ครูหมอลำฝ่ายหญิง)
3.5.8 หมอแคนประเชิญ กาละพันธ์ กรรมการ(ครูดนตรีดูแลฝ่ายหมอแคน)
3.5.9 อาจารย์เชษ โสภา กรรมการ(ครูดนตรีและดูฝ่ายดนตรี)
3.5.10 หมอลำมนตรี เพชรพระยืน กรรมการ(ครูหมอลำดูแลฝ่ายหางเครื่อง
3.5.11 หมอลำนันทนา แก้วเสด็จ กรรมการ(ครูหมอลำท่าทางประกอบลำ)
3.5.12 นางบัวเงิน นรมาตย์ กรรมการ(ฝ่ายรับงานแสดงเหรัญญิก)
3.5.12 นางบัวเงิน นรมาตย์ กรรมการ(ฝ่ายรับงานแสดงเหรัญญิก)
3.6 ผลงานด้านการสร้างสรรค์และการเรียนการสอน
3.6.1 ด้านการสร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรม และนำไปแสดงเผยแพร่
การสร้างสรรค์งานด้านวรรณกรรม (แต่งกลอนลำ) ผลงานวรรณกรรมทั้งหมด ได้เรียบเรียงเอกสารประกอบการบรรยายว่าด้วยประเภทของกลอนลำ ฉันทลักษณ์และเทคนิคการสร้างสรรค์ทำนองลำ จากกลอนลำที่แต่งขึ้น หลักการประพันธ์กลอนลำเบื้องต้นจะเน้นรูปแบบและถ้อยคำสำนวนภาษาถิ่น รวมทั้งสัมผัสนอก-สัมผัสใน ตลอดจนความสะเทือนอารมณ์ รวมทั้งศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนแต่ง และพัฒนารูปแบบการแต่งกลอนลำ และการแสดงให้ทันยุคสมัย โดยการนำเอาการแสดงเก่าและใหม่มาผสมผสานกันให้เกิดเป็น “หมอลำบูรณาการ” ประเภทและทำนองลำที่แต่งประกอบด้วย ลำพื้น ลำกลอน ลำหมู่ ลำกลอนประยุกต์ ส่วนเนื้อหาสาระของกลอนเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ เช่น เทิดพระเกียรติฯ , ปลุกจิตสำนึกให้คนไทยรักชาติ , คุณธรรม จริยธรรมและอนุรักษ์วัฒนธรรม ,พิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , เชิญชวนท่องเที่ยวไทย , เผยแพร่ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งนักการเมือง , นิทานโบราณคดีและวรรณคดี , ประวัติศาสตร์และพงศาวดารไทย-ลาว,โครงการเร่งด่วนของรัฐบาล ,เบ็ดเตล็ด,รณรงค์ต่อต้านโรคภัยต่าง ๆ และเผยแพร่ข่าวสารบ้านเมืองในเรื่องต่าง ๆ ตลอดจนกลอน รายงานตัวของศิลปินในค่าย , รวมทั้งการสร้างสื่อการเรียนการสอนหมอลำ ทั้งแบบดั้งเดิม และแบบประยุกต์ให้ทันยุคของเทคโนโลยี และทันกระแสสังคม
3.6.2 งานด้านการถ่ายทอด/การสอนเปิดการเรียนการสอน ทั้งอยู่ประจำ และเรียนทางไปรษณีย์
3.6.3 การสอนประจำที่บ้าน โดยการจัดเตรียมหลักสูตรหมอลำกลอนและลำกลอนประยุกต์ ให้นักเรียนเข้ามาเรียนอยู่ประจำที่บ้าน รวมทั้งการเลี้ยงดูจนจบหลักสูตร
3.6.4 การเรียนทางไปรษณีย์ ก็จัดเตรียมหลักสูตรหมอลำกลอนและลำกลอนประยุกต์ ประกอบด้วย หนังสือบทกลอนลำ พร้อมกับภาพท่าทางประกอบลำ และทำนองลำ ทางเทป ซีดี และวีซีดี ส่งทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ที่ผู้เรียนแจ้งมา หรือส่งทางอีเมล rsrivilai@hotmail.com และ
www ratreesrivilai.com ให้แก่เยาวชนที่สนใจ เมื่อจบหลักสูตรตามสื่อที่ให้แล้ว ก็เข้ามาฝึกปฏิบัติจริงตามขั้นตอนกับครูอีก จนสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ ทำให้เป็นการลดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้เรียนและผู้สอน การประเมินผลของลูกศิษย์ จะดูจากการให้ไปแสดงทดสอบเวทีจริงกับครู ถ้าผ่านก็จะรับงานให้ไปแสดงงานส่วนตัว และตามประเมินผลจากผู้ชม
3.6.5 การประเมินผลลูกศิษย์ที่เรียนจบหลักสูตร นับจากเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันรวมลูกศิษย์หมอลำกลอนและลำกลอนประยุกต์ ทั้งสอนประจำที่บ้าน และทางไปรษณีย์ จบหลักสูตรสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ รวมมากกว่า 500 คน ส่วนหมอแคนที่จบหลักสูตรสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ รวมประมาณ 100 คน และดนตรีประกอบหมอลำกลอนประยุกต์ ที่จบหลักสูตรสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ รวมประมาณ 200 คน
3.6.7 เครือข่ายของศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทย แม่ครูราตรี ศรีวิไล
เครือข่ายของศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทย แม่ครูราตรี ศรีวิไล ที่เป็นมหาวิทยาลัยในเขตภาคอีสานและภาคอื่น ๆ บางส่วนดังนี้
1. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2. มหาวิทยาลัยขอนแก่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
3. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
4. มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย
5. มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร
6. มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา
7. มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแก่น
8. มหาวิทยาลัยขอนแก่น (เครือข่ายหนองคาย)
9. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
10. มหาวิทยาลัยมหิดล
11. มหาวิทยาลัยศิลปกร ฯลฯ
เครือข่ายของศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยแม่ครูราตรี ศรีวิไล ที่เป็นโรงเรียนในระดับประถมและมัธยมอีกหลายแห่งในเขตภาคอีสานได้แก่
1. โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน
2. โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย
3. โรงเรียนกัลยาณวัตร
4. โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น
5. โรงเรียนสนามบินขอนแก่น ฯลฯ
รวมไปถึงองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาลนครขอนแก่น รวมทั้งศูนย์และสำนักงานวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น สภาวัฒนธรรม และสำนักงานวัฒนธรรมขอนแก่นเป็นต้น
จากที่กล่าวมาสรุปได้ว่า ศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยของแม่ครูราตรี ศรีวิไล ได้จัดตั้งขึ้นเพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมศิลปะการแสดงพื้นบ้านหมอลำ โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจเรียนหมอลำ เรียนแต่งกลอนลำ เข้ามาเรียนตามอัธยาศัย โดยมีกระบวนการเรียนการสอนที่สามารถให้ผู้เรียนได้นำไปปฏิบัติจริง โดยมีการจัดหางานแสดงในขณะที่เรียนให้ด้วย พร้อมทั้งมีการวัดผลประเมินผลจาก ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ปีละ 1 ครั้ง จึงเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจสำหรับลูกศิษย์และผู้อำนวยการศูนย์การเรียนเป็นอย่างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น