ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
ออกข้อสอบโดย รศ.ดร.สำเร็จ ยุรชัย
ข้อ 1. หากท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กแห่งหนึ่ง มีนักเรียน 60 คน ครู 3 คน (รวม ผอ.ด้วย) ชุมชนค่อนข้างยากจน ท่านจะบริหารงานวิชาการด้านต่างๆ ของโรงเรียนแห่งนี้ให้ประสบความสำเร็จอย่างไร อธิบาย
ตอบ
การบริหารงานวิชาการสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กและมีครูอยู่เพียง 3 คนรวม ผอ. ด้วย ได้มีการกำหนดกระบวนการและ ขั้นตอนในการบริหารงานวิชาการดังนี้
1.การวางแผน (Planning)
2.การจัดองค์กร(Organizing)
3.การจัดวางตัวบุคลากร(Staffing)
4.การบังคับบัญชา(Directing)
5.การประสานงาน(Co-ordinating)
6.การรายงาน(Reportting)
7.การงบประมาณ(Budgeting)
ตอบ
การบริหารงานวิชาการสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กและมีครูอยู่เพียง 3 คนรวม ผอ. ด้วย ได้มีการกำหนดกระบวนการและ ขั้นตอนในการบริหารงานวิชาการดังนี้
1.การวางแผน (Planning)
2.การจัดองค์กร(Organizing)
3.การจัดวางตัวบุคลากร(Staffing)
4.การบังคับบัญชา(Directing)
5.การประสานงาน(Co-ordinating)
6.การรายงาน(Reportting)
7.การงบประมาณ(Budgeting)
กลุ่มบริหารงานวิชาการ ได้วางแผนงานไว้ในแผนปฏิบัติการระยะกลาง (3 ปี) และแผนปฏิบัติการ/โครงการ/งาน/กิจกรรม ประจำปีแล้วยังกำหนดบทบาท หน้าที่ ไว้ดังนี้
1. ด้านการบริหารงานวิชาการ
1.1 การวางแผนงานวิชาการ
1. การรวบรวมข้อมูล และจัดทาระเบียบการปฏิบัติเกี่ยวกับงานวิชาการ
2. การทำแผนงานวิชาการ
1.2 การบริหารงานวิชาการ
1. จัดทำโครงสร้างหลักสูตรและสาระการเรียนรู้ของโรงเรียนโดยประสานงานกับหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
2. จัดทำแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับการเรียนการสอน โดยประสานกับหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้และงานที่เกี่ยวข้อง
3. ดูแลการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครูให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดย ประสานกับหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้และงานที่เกี่ยวข้อง
4. ส่งเสริมพัฒนาความรู้ความสามารถของครูในการวิจัย ผลิตและพัฒนาสื่อ – นวัตกรรมในการเรียนการสอน
5. ส่งเสริมการจัดโครงการและกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนอย่างหลากหลาย
6. จัดทำเอกสารข้อมูลต่างๆและการตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวกับการเรียนของนักเรียน
7. ส่งเสริมการจัดกิจกรรมพัฒนาการเรียน สนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนารูปแบบ การบริหารการจัดการให้สอดคล้องนโยบายของหลักสูตร
8. สนับสนุนส่งเสริมพัฒนาการแนะแนว การดูแลช่วยเหลือนักเรียนในด้านการเรียน จัดบุคลากรรับผิดชอบ
9. ดูแลสนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ สาหรับนักเรียน – ครู อย่างหลาก หลายและมีศักยภาพ อาทิ ห้องสมุด ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
10. ดูแลจัดหาสื่อ วัสดุอุปกรณ์ ที่จำเป็นต่อการจัดการเรียนการสอน
11. รับผิดชอบในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การวัดผลประเมินผลการเรียน
1.3 งานพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
1. จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการของผู้เรียน ผู้ปกครองชุมชนและสังคมตามกรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานปีการศึกษา 2544, 2551, 2553 โดยมีการจัดทำหลักสูตรท้องถิ่นเพราะชุมชนค่อนข้างยากจนแต่มีภูมิปัญญาท้องถิ่น
2. บริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา
3. นิเทศเพื่อการพัฒนาการใช้หลักสูตรภายในสถานศึกษา
4. ติดตาม ประเมินผลและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา และรายงานผลให้ เขตพื้นที่การศึกษารับทราบ
1.4 งานพัฒนากระบวนการเรียนรู้
1. การจัดทำการใช้ ปรับปรุงหน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้ โดยผู้เรียน มีส่วนรวม
2. การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ยืดหยุ่นตามความเหมาะสมทั้งด้านเวลาสาระการเรียนรู้ และผู้เรียน
3. จัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงจากแหล่งการเรียนรู้
4. ใช้การแนะแนวเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกระบวนการเรียนรู้
5. การจัดหาจัดทำ ใช้บำรุงรักษา และส่งเสริมการผลิตสื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีอยู่ในชุมชนไว้ใช้เอง
6. การจัดสอนซ่อมเสริมแบ่งกลุ่ม ละ 20 ต่อครู 1 คน
4. ใช้การแนะแนวเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกระบวนการเรียนรู้
5. การจัดหาจัดทำ ใช้บำรุงรักษา และส่งเสริมการผลิตสื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีอยู่ในชุมชนไว้ใช้เอง
6. การจัดสอนซ่อมเสริมแบ่งกลุ่ม ละ 20 ต่อครู 1 คน
7. การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตร
1.5 งานกลุ่มสาระการเรียนรู้
1. วางแผนและบริหารกลุ่มงานสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2. พัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน จัดทาแผนงาน/โครงการ/งานของกลุ่ม
3. ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานฝ่ายวิชาการ งานพัฒนาหลักสูตรและ การเรียนการสอน
4. ส่งเสริมให้มีการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนและนิเทศการสอน
5. จัดโครงสร้างหลักสูตร เส้นทางวิชาการและการเลือกเรียนวิชาเพิ่มเติม
6. จัดตารางการเรียนการสอน การสอบวัดผล
7. กำหนดเวลาเรียน และปฏิบัติงานวิชาการ
8. ส่งเสรม สนับสนุน ประสานงาน บริการ ควบคุมคุณภาพงานและพัฒนาการ ทำแผนการจัดการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้
9. จัดทาสารสนเทศกลุ่มงานสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
10. ดำเนินการตามโครงการพิเศษที่ได้รับมอบหมาย
1.6 งานวัดผล / ประเมินผล / เทียบโอน
1. กำหนดระเบียบการวัดและประเมินผลของสถานศึกษา
2. การดำเนินการวัดผลและประเมินผลการเรียน
3. จัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบการวัดและประเมินผลของสถานศึกษา
4. การจัดให้มีเอกสารและแบบฟอร์ม เกี่ยวกับการวัดผลและประเมินผลการเรียน
5. การสร้าง /ปรับปรุง/ พัฒนา/ รวบรวม เครื่องมือการวัดผลการเรียน
6. ดำเนินการเกี่ยวกับหลักฐานการวัดผลและประเมินผลการเรียนพร้อมทั้งจัดเก็บให้เป็นระบบ
7. ดำเนินการจัดทาข้อสอบกลางภาค และ ปลายภาคเรียน
8. ติดตาม และ ดาเนินการแก้ไขนักเรียนที่มีผลการเรียน “มส” / “0” / “ร” / “มผ”
9. วัดผล ประเมินผล เทียบโอนประสบการณ์ เทียบโอนผลการเรียนและอนุมัติผล การเรียน
10. จัดระบบสารสนเทศด้านการวัดผลประเมินผลและการเทียบโอนผลการเรียนเพื่อใช้ในการอ้างอิง ตรวจสอบและใช้ประโยชน์ในการพัฒนาการเรียนการสอน
1.7 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
1. จัดทำประเมิน สรุปผล หลักสูตรพัฒนาผู้เรียน
2. ดูแล กากับติดตามกิจกรรมแนะแนว ชมรม ลูกเสือ
3. ส่งเสริม สนับสนุนการเข้าร่วมแข่งขันด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา จริยธรรม ทักษะ และความสามารถ
4. ดูแล ช่วยเหลือให้คำปรึกษานักเรียนที่มีปัญหาด้านการเรียน และฐานะยากจน ประสานความร่วมมือกับครูและผู้ปกรองในการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง
5. ให้คำปรึกษานักเรียนสำหรับการศึกษาต่อ
4. ดูแล ช่วยเหลือให้คำปรึกษานักเรียนที่มีปัญหาด้านการเรียน และฐานะยากจน ประสานความร่วมมือกับครูและผู้ปกรองในการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง
5. ให้คำปรึกษานักเรียนสำหรับการศึกษาต่อ
1.8 กลุ่มงานทะเบียนนักเรียน
1. กำหนดแนวทาง ปฏิทินปฏิบัติงาน งานทะเบียนนักเรียนตลอดปีการศึกษา
2. จัดทำทะเบียนนักเรียนให้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ
3. จัดทำเอกสาร แบบฟอร์มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เพียงพอและเป็นปัจจุบัน
4. จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการมอบตัวนักเรียน การรับมอบตัวนักเรียน การให้เลขประจาตัว การพิมพ์รายชื่อนักเรียน การจัดนักเรียนเป็นห้องเรียน
5. ศึกษา ติดตามข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการติดตามนักเรียนที่ขาดเรียนนาน การจำหน่าย นักเรียนออกจากทะเบียนนักเรียน
6. ดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขหลักฐานในทะเบียนนักเรียนตามระเบียบที่กำหนด
7. จัดทำและตรวจสอบระเบียนแสดงผลการเรียน(รบ.1) ให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
การออกใบระเบียนแสดงผลการเรียนให้นักเรียนที่จบประโยคการศึกษา หรือนักเรียนที่ประสงค์ลาออก
8. ประสานผู้ปกครองนักเรียนในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับหลักฐาน หรือปัญหาอื่น ที่เกี่ยวข้อง
9. ดำเนิน การออกเอกสารรับรองผลการเรียน การออกใบสุทธิ ใบแทนใบสุทธิ ใบรับรองการจบหลักสูตร
10. สอนและปฏิบัติหน้าที่อื่นๆตามที่โรงเรียนมอบหมาย
9. ดำเนิน การออกเอกสารรับรองผลการเรียน การออกใบสุทธิ ใบแทนใบสุทธิ ใบรับรองการจบหลักสูตร
10. สอนและปฏิบัติหน้าที่อื่นๆตามที่โรงเรียนมอบหมาย
1.9 งานแนะแนว
1. สำรวจพัฒนาระบบงานแนะแนวทางวิชาการ โดยเชื่อมโยงกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและกระบวนการเรียนการสอน
2. จัดกิจกรรมแนะแนวในสถานศึกษา โดยประสานความร่วมมือกับครูที่ปรึกษา
3. ติดตามและประเมินผลการจัดการระบบและกระบวนการแนะแนวการศึกษาในสถานศึกษา
4. พัฒนาดาเนินงานในส่วนที่เกี่ยวกับระบบงานแนะแนวและการให้คาปรึกษา
5. การติดตามผลนักเรียนที่จบการศึกษา – การติดตามผลนักเรียนที่ได้รับ
6. จัดกิจกรรมแนะแนว
2. จัดกิจกรรมแนะแนวในสถานศึกษา โดยประสานความร่วมมือกับครูที่ปรึกษา
3. ติดตามและประเมินผลการจัดการระบบและกระบวนการแนะแนวการศึกษาในสถานศึกษา
4. พัฒนาดาเนินงานในส่วนที่เกี่ยวกับระบบงานแนะแนวและการให้คาปรึกษา
5. การติดตามผลนักเรียนที่จบการศึกษา – การติดตามผลนักเรียนที่ได้รับ
6. จัดกิจกรรมแนะแนว
1.10 แหล่งเรียนรู้/ห้องสมุด
1. จัดให้มีแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษาให้พอเพียงสอดคล้อง กับการจัดกระบวนการเรียนรู้
2. ส่งเสริมให้ครู และผู้เรียนได้ใช้แหล่งเรียนรู้ ทั้งในและนอกสถานศึกษาเพื่อพัฒนา การเรียนรู้
3. วางแผน ดำเนินการ และพัฒนางานห้องสมุดให้พร้อมสาหรับการตรวจรับรอง
4. จัดทำทะเบียนหนังสือ สถิติการยืมคืน สถิติการเข้าใช้ และสถิติอื่นๆ
5. นำเสนอและจัดซื้อหนังสือ หรือจัดบริจาคหนังสือ จัดหมวดหมู่ จัดหนังสือ และจัดสถานที่ให้
เหมาะสม
6. ให้บริการเป็นแหล่งเรียนรู้ ค้นคว้า ศึกษาเพิ่มเติม สาหรับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง
7. จัดกิจกรรมที่สร้างเสริมนิสัยรักการอ่าน รักหนังสือ ติดตาม ประเมินผลกิจกรรม
4. จัดทำทะเบียนหนังสือ สถิติการยืมคืน สถิติการเข้าใช้ และสถิติอื่นๆ
5. นำเสนอและจัดซื้อหนังสือ หรือจัดบริจาคหนังสือ จัดหมวดหมู่ จัดหนังสือ และจัดสถานที่ให้
เหมาะสม
6. ให้บริการเป็นแหล่งเรียนรู้ ค้นคว้า ศึกษาเพิ่มเติม สาหรับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง
7. จัดกิจกรรมที่สร้างเสริมนิสัยรักการอ่าน รักหนังสือ ติดตาม ประเมินผลกิจกรรม
1.11 งานพัฒนาสื่อ/นวัตกรรม/และเทคโนโลยี
1. จัดทำแผนและโครงการงานพัฒนาสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา
2. ศึกษา วิเคราะห์ความจำเป็นในการใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อการจัดการสอนและการบริหารงานวิชาการ
3. ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูผลิตสื่อ ธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น พัฒนาสื่อ ในการเรียนการสอน
4. จัดทำสื่อ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน
5. ประสานความร่วมมือในการผลิต จัดหา พัฒนาการใช้สื่อ เพื่อใช้ในการเรียนการสอน การพัฒนางานวิชาการกับสถานศึกษา หน่วยงานอื่น ๆ
6. จัดเตรียมความพร้อมของศูนย์พัฒนาสื่อ เพื่อให้บริการสาหรับการเรียนการสอน
7. ประเมินผลและรายงานผลการปฏิบัติงานต่อผู้อานวยการสถานศึกษา
8. ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
1.12 ประเมินครูสู่การพัฒนาศักยภาพ/วิจัย
1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูทำวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน หลักสูตร กระบวน การเรียนรู้ และอุปกรณ์การเรียนการสอน
2. รวบรวม และเผยแพร่ผลการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา รวมทั้งสนับสนุนให้ครูนำผลการวิจัยมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
1.13 งานนิเทศการศึกษา
1. ศึกษาวิเคราะห์ขอบข่ายงานการนิเทศการศึกษาและพัฒนาบุคลกร
2. วางแผนการนิเทศการศึกษาและพัฒนาบุคลากรด้านวิชาการ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามความต้องการของครูในสถานศึกษา
3. ดำเนินงานให้การนิเทศอบรมครู เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้สู่นักเรียน
4. ส่งเสริมและสนับสุนนการแก้ไขปัญหาของครูที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดการเรียนรู้ร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้
2. วางแผนการนิเทศการศึกษาและพัฒนาบุคลากรด้านวิชาการ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามความต้องการของครูในสถานศึกษา
3. ดำเนินงานให้การนิเทศอบรมครู เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้สู่นักเรียน
4. ส่งเสริมและสนับสุนนการแก้ไขปัญหาของครูที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดการเรียนรู้ร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้
1.14 การประเมินผลการดาเนินงานวิชาการ
1. การประเมินผลการดาเนินงานวิชาการ
2. การประเมินผลในด้านคุณภาพการจัดการเรียนการสอน
การจัดวางตัวบุคลากรกลุ่มบริหารวิชาการ
การบริหารงานกลุ่มบริหารงานวิชาการ มีการจัดวางตัวบุคลากร กำหนดบทบาทและหน้าที่เพื่อให้การบริหารงานเกิดประสิทธิภาพดังต่อไปนี้
ขอสมมุติชื่อ ครูทั้ง 3 ชื่อดังนี้
1. นายดำรง จรรัตน์ ผู้อำนวยการ
2. นางขวัญใจ นรอิ่ม ครูผู้สอน
3. นางราตรี ลภะวงศ์ ครูผู้สอน
1. นายดำรง จรรัตน์ ผู้อำนวยการ
2. นางขวัญใจ นรอิ่ม ครูผู้สอน
3. นางราตรี ลภะวงศ์ ครูผู้สอน
1. กลุ่มบริหารวิชาการ
1. นางขวัญใจ นรอิ่ม ปฏิบัติหน้าที่ บริหารวิชาการ
2. นางราตรี ลภะวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่ บริหารวิชาการ
มีบทบาทหน้าที่ ดังนี้
- วางแผนและบริหารกลุ่มงานวิชาการ
- ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของครูอาจารย์
- ส่งเสริม สนับสนุน ประสานงาน บริการ ควบคุมคุณภาพงานและพัฒนาหลักสูตรการเรียน การสอน การนิเทศ การวัดและประเมินผล
- ร่วมกำหนดทิศทาง แนวนโยบาย และจัดทาแผนปฏิบัติงานของโรงเรียน
- วิเคราะห์สภาพปัจจุบันและปัญหาของโรงเรียน เพื่อการพัฒนาโรงเรียน
- ปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการและนโยบาย กลยุทธ์โรงเรียน
- เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการ
- เป็นที่ปรึกษาผู้อานวยการโรงเรียน
- รักษาราชการในตำแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษาตามที่ได้รับมอบหมาย
- ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการบริหารโรงเรียน
- ปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้อานวยการโรงเรียน
2. งานสำนักงานบริหารวิชาการ
1. นางขวัญใจ นรอิ่ม ปฏิบัติหน้าที่
หัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ
หัวหน้างานสารสนเทศนักเรียน
หัวหน้างานจัดตารางสอนนักเรียน-ครู
หัวหน้างานพัสดุ-การเงินฝ่ายวิชาการ
หัวหน้างานธุรการ-สารบรรณฝ่ายวิชาการ
หัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ
หัวหน้างานสารสนเทศนักเรียน
หัวหน้างานจัดตารางสอนนักเรียน-ครู
หัวหน้างานพัสดุ-การเงินฝ่ายวิชาการ
หัวหน้างานธุรการ-สารบรรณฝ่ายวิชาการ
2. นางราตรี ลภะวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่
ผู้ช่วยหัวหน้างานสารสนเทศนักเรียน
ผู้ช่วยหัวหน้าจัดตารางสอนนักเรียน-ครู
ฝ่ายเอกสารการจัดพิมพ์
ผู้ช่วยหัวหน้างานสารสนเทศนักเรียน
ผู้ช่วยหัวหน้าจัดตารางสอนนักเรียน-ครู
ฝ่ายเอกสารการจัดพิมพ์
3. งานพัฒนาหลักสูตร
1. นางขวัญใจ นรอิ่ม ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้ากลุ่มงานหลักสูตร
2. นางราตรี ลภะวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยหัวหน้ากลุ่มงานหลักสูตร
มีบทบาทและหน้าที่ดังนี้
- วางแผนและบริหารกลุ่มงานพัฒนาหลักสูตร งานพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน จัดทาแผนงาน/โครงการ/งาน ของกลุ่มงาน
- ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานพัฒนาหลักสูตร และการเรียนการสอน
- ส่งเสริมให้มีการพัฒนาหลักสูตร และการเรียนการสอน และนิเทศการสอน
- จัดโครงสร้างหลักสูตร เส้นทางวิชาการ และการเลือกเรียนวิชาเพิ่มเติม
- ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ผู้ช่วยผู้อานวยการฝ่ายวิชาการมอบหมาย
4. งานกลุ่มสาระการเรียนรู้
1. นางขวัญใจ นรอิ่ม รองผู้อานวยการบริหารวิชาการ
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
2. นางราตรี ลภะวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปศึกษา
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาพละศึกษา
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา ฯ
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปศึกษา
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาพละศึกษา
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา ฯ
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
มีบทบาทและหน้าที่ดังนี้
- วางแผนและบริหารกลุ่มงานสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
- พัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน จัดทาแผนงานโครงการ/งาน ของกลุ่มงาน
- ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของกลุ่มสาระ ฯ และการเรียนการสอน
- ส่งเสริมให้มีการพัฒนาหลักสูตร และนิเทศการสอน
- จัดทำโครงสร้างหลักสูตร เส้นทางวิชาการและการเลือกเรียนวิชาเพิ่มเติม
- ร่วมกันจัดตารางการเรียนการ
- กำหนดเวลาเรียน
5. งานวัดผล / ประเมินผล /เทียบโอน
1. นางสาวสุทิศา ตันติกุลวิจิตร ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้างานวัดผล
2. นางสาวศุภมาศ เพชรสมบัติ ปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่งานวัดผล
มีบทบาทและหน้าที่ดังนี้
- กำหนดระเบียบการวัดและประเมินผลของสถานศึกษา
- การดำเนินการวัดผลและประเมินผลการเรียน
- จัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบการวัดและประเมินผลของสถานศึกษา
- การจัดให้มีเอกสารและแบบฟอร์ม เกี่ยวกับการวัดผลและประเมินผลการเรียน
- การสร้าง /ปรับปรุง/ พัฒนา/ รวบรวม เครื่องมือการวัดผลการเรียน
- ดำเนินการเกี่ยวกับหลักฐานการวัดผลและประเมินผลการเรียนพร้อมทั้งจัดเก็บให้เป็นระบบ
- ดำเนินการจัดทาข้อสอบกลางภาค และ ปลายภาคเรียน
- ติดตาม และ ดำเนินการแก้ไขนักเรียนที่มีผลการเรียน “มส” / “0” / “ร” / “มผ”
- จัดทาสถิติผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เสนอหัวหน้าฝ่ายวิชาการ เพื่อเป็นข้อมูล
- ในการปรับปรุง พัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมการเรียนการสอน
- วัดผล ประเมินผล เทียบโอนประสบการณ์ เทียบโอนผลการเรียนและอนุมัติผลการเรียน
6. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
1. นางขวัญใจ นรอิ่ม ปฏิบัติหน้าที่
หัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
หัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2. นางราตรี ลภะวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่
หัวหน้ากิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี
หัวหน้ากิจกรรมชุมนุม
หัวหน้ากิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี
หัวหน้ากิจกรรมชุมนุม
หัวหน้ากิจกรรมแนะแนว
หัวหน้ากิจกรรมคุณธรรมและจริยธรรม
มีบทบาทและหน้าที่ดังนี้
- จัดทำประเมิน สรุปผล หลักสูตรพัฒนาผู้เรียน
- ดูแล กำกับติดตามกิจกรรมแนะแนว ชมรม ลูกเสือ พาเพ็ญประโยชน์
- ส่งเสริม สนับสนุนการเข้าร่วมแข่งขันด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา จริยธรรม ทักษะและความสามารถ
- ดูแล ช่วยเหลือให้คำปรึกษานักเรียนที่มีปัญหาด้านการเรียน ปัญหาทางบ้านที่ยากจน ประสานความร่วมมือกับครูและ ผู้ปกครองในการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง
- ให้คำปรึกษานักเรียนสาหรับการศึกษาต่อ และทักษะการทางาน
- ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
7. กลุ่มงานทะเบียนนักเรียน
1. นางเสงี่ยม วรวัฒน์ ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปฏิบัติหน้าที่ นายทะเบียนและหัวหน้างานทะเบียน
2. นางสาวปนัดดา มนิตสาร ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ทะเบียน
มีบทบาทและหน้าที่ดังนี้
- กำหนดแนวทาง ปฏิทินปฏิบัติงาน งานทะเบียนนักเรียนตลอดปีการศึกษา
- จัดทำทะเบียนนักเรียนให้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ และเป็นปัจจุบัน
- จัดระบบการเก็บรักษาโดยคำนึงถึงความสะดวกในการให้บริการ และความปลอดภัย
- จัดทำเอกสาร แบบฟอร์มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เพียงพอและเป็นปัจจุบัน
- จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการมอบตัวนักเรียน การรับมอบตัวนักเรียน
- การให้เลขประจาตัว การพิมพ์รายชื่อนักเรียน การจัดนักเรียนเป็นห้องเรียน
- ศึกษา ติดตามข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการติดตามนักเรียนที่ขาดเรียนนาน การจำหน่าย นักเรียนออกจากทะเบียนนักเรียน
- ดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขหลักฐานในทะเบียนนักเรียนตามระเบียบที่กำหนด
- จัดทำและตรวจสอบระเบียนแสดงผลการเรียน(รบ.1) ให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
- การออกใบระเบียนแสดงผลการเรียนให้นักเรียนที่จบประโยคการศึกษา หรือนักเรียนที่ประสงค์ลาออก
- ประสานผู้ปกครองนักเรียนในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับหลักฐาน หรือปัญหาอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ดำเนินการเขียนใบประกาศ การออกเอกสารรับรองผลการเรียน การออกใบสุทธิ ใบแทนใบสุทธิ ใบรับรองการจบหลักสูตร
- ให้บริการในการตรวจสอบวุฒิของนักเรียนแก่หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ประเมินผลงานทะเบียนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพัฒนางานต่อไป
8. งานแนะแนว
1. นางขวัญใจ นรอิ่ม ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้างานแนะแนว
2. นางราตรี ลภะวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยงานแนะแนว
มีบทบาทและหน้าที่ดังนี้
- สำรวจพัฒนาระบบงานแนะแนวทางวิชาการ โดยเชื่อมโยงกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน พัฒนากระบวนการเรียนการสอน
- จัดกิจกรรมแนะแนวในสถานศึกษา โดยประสานความร่วมมือกับครูที่ปรึกษา
- ติดตามและประเมินผลการจัดการระบบและกระบวนการแนะแนวการศึกษาในสถานศึกษา
- พัฒนาดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวกับระบบงานแนะแนวและการให้คำปรึกษา
- การติดตามผลนักเรียนที่จบการศึกษา – การติดตามผลนักเรียนที่ได้รับคำปรึกษา
- สำรวจข้อมูลนักเรียนที่จะเข้าเรียนและจัดทาระบบข้อมูลสารสนเทศ เพื่อนาไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- จัดบริการแนะแนว 5 ด้าน
9. แหล่งเรียนรู้/ห้องสมุด
1. นางศิริกมล สายสร้อย ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าแหล่งเรียนรู้ภายนอก
- ส่งเสริมให้ครู และผู้เรียนได้ใช้แหล่งเรียนรู้ ทั้งในและนอกสถานศึกษาเพื่อพัฒนา การเรียนรู้
- วางแผน ดำเนินการ และพัฒนางานห้องสมุดให้พร้อมสาหรับการตรวจรับรอง
- จัดทำทะเบียนหนังสือ สถิติการยืมคืน สถิติการเข้าใช้ และสถิติอื่นๆ
10. งานพัฒนาสื่อ / นวัตกรรม / และเทคโนโลยี
1. นางขวัญใจ นรอิ่ม ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าศุนย์ เทคโนโลยี
2. นางราตรี ลภะวงศ์ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยหัวหน้าศุนย์ เทคโนโลยี
มีบทบาทและหน้าที่ดังนี้
- จัดทำแผนและโครงการงานพัฒนาสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา
- ศึกษา วิเคราะห์ความจำเป็นในการใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อการจัดการสอนและ การบริหารงานวิชาการ
- ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูผลิตสื่อ พัฒนาสื่อ และนวัตกรรมการเรียนการสอน
- จัดหาสื่อ และเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนและพัฒนางานด้านวิชาการ
- ประสานความร่วมมือในการผลิต จัดหา พัฒนาการใช้สื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อใช้ ในการเรียนการสอน
- จัดเตรียมความพร้อมของศูนย์พัฒนาสื่อ เพื่อให้บริการสาหรับการเรียนการสอน
- ประเมินผลและรายงานผลการปฏิบัติงานต่อผู้อานวยการสถานศึกษา
11. ประเมินครูสู่การพัฒนาศักยภาพ/วิจัย
1. นายดำรง จรรัตน์ ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้างานวิจัย
มีบทบาทและหน้าที่ดังนี้
- ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูทาวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน หลักสูตร กระบวน การเรียนรู้ การใช้สื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอน
- รวบรวม และเผยแพร่ผลการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา รวมทั้งสนับสนุนให้ครูนำผลการวิจัยมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
- ติดตามและประเมินผลงาน กลุ่มงานวิจัย
- จัดทาสาระสนเทศ และเอกสารงานบริหารงานกลุ่มงานวิจัย
- พัฒนาบุคลากร ส่งเสริมการวิจัย และการทาผลงานทางวิชาการ
- ส่งเสริมและพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียน และทางการศึกษา
- ดำเนินการตามโครงการพิเศษที่ได้รับมอบหมาย
12. งานนิเทศการศึกษา
1. นายดำรง จรรัตน์
1. ศึกษาวิเคราะห์ขอบข่ายงานการนิเทศการศึกษาและพัฒนาบุคลกร 2. วางแผนการนิเทศการศึกษาและพัฒนาบุคลากรด้านวิชาการ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามความต้องการของครูในสถานศึกษา 3. ดาเนินงานให้การนิเทศอบรม สัมมนาครู เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้สู่นักเรียน 4. ส่งเสริมและสนับสุนนการแก้ไขปัญหาของครูที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดการเรียนรู้ร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ 5. พัฒนาระบบการนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สู่ผู้เรียนเป็นสำคัญ 6. ประสานงานการนิเทศ ติดตาม และประเมินผลร่วมกับกลุ่มงานนิเทศ 7. ประสานงานการพัฒนา การแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์การจัดระบบงานนิเทศการศึกษาและพัฒนาบุคลากรภายในสถานศึกษา 8. สรุปรายงานและจัดทาข้อมูลสารสนเทศการนิเทศการศึกษาและพัฒนาบุคลากรของครูในสถานศึกษาด้านวิชาการ และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สู่ผู้เรียนเป็นสำคัญ 9. ปฏิบัติงานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 2. แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นมีความสำคัญต่อการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนอย่างไร ท่านในฐานะผู้บริหารสถานศึกษาจะส่งเสริมให้ครูผู้สอนได้ใช้แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นดังกล่าวให้เกิดประโยชน์อย่างจริงจังได้อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ ความสำคัญของแหล่งเรียนรู้ในการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน
ท้องถิ่นมีแหล่งการเรียนรู้ และผู้รู้ด้านต่างๆมากมาย มากกว่าที่ครูสอนท่องหนังสือ ถ้าเปิดโรงเรียนสู่ท้องถิ่นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากครูในท้องถิ่น จะมีครูมากมายหลากหลายเป็นครูที่รู้จริงทำจริง จะทำให้การเรียนรู้ไปสู่การปฏิบัติจริง การเรียนสนุกไม่น่าเบื่อ ที่สำคัญเป็นการปรับระบบที่มีคุณค่า เดิมการศึกษามองข้ามคุณค่าเหล่านี้ เมื่อผู้รู้ในท้องถิ่นเหล่านี้เป็นครูได้ จะเป็น การยกระดับคุณค่า ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของท้องถิ่นอย่างแรง เป็นการถักทอ ทางสังคม
แหล่งการเรียนรู้มีบทบาทในการให้การศึกษาแก่ผู้เรียน ทั้งในระบบและ นอกระบบ ดังนี้
1.แหล่งการเรียนรู้สามารถตอบสนองการเรียนรู้ที่เป็นกระบวนการ (Process Of Learning) การเรียนรู้โดยการปฏิบัติจริง (Learning By Doing) ทั้งจากท้องถิ่น ซึ่งเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ตนเองมีอยู่แล้ว
2.เป็นแหล่งกิจกรรม แหล่งทัศนะศึกษา แหล่งฝึกงาน และแหล่งประกอบอาชีพของผู้เรียน
3.เป็นแหล่งสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นโดยตรง
4.เป็นห้องเรียนธรรมชาติ เป็นแหล่งค้นคว้า วิจัย และฝึกอบรม
5.เป็นองค์กรเปิด ผู้สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเต็มที่และทั่วถึง
6.สามารถเผยแพร่ข้อมูลแก่ผู้เรียนในเชิงรุก เข้าสู่กลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึงประหยัดและสะดวก
7.มีการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
8.มีสื่อประเภทต่างๆ ประกอบด้วย สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเสริมกิจกรรมการเรียนการสอนและพัฒนาอาชีพ
สรุปความสำคัญของแหล่งการเรียนรู้ได้ว่า แหล่งการเรียนรู้ช่วยเชื่อมโยงเรื่องราวในท้องถิ่นสู่การเรียนรู้สากล พัฒนาคุณลักษณะและความคิด ความเข้าใจในคุณค่า และทัศนคติ ค่านิยม ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน รักการเรียนรู้ มีทักษะการแสวงหาความรู้ สามารถจัดการความรู้ ซึ่งมีความสำคัญและมีความหมายอย่างมากสำหรับผู้เรียน ดังนี้
1.ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสภาพชีวิตจริง สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ช่วยให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตน ครอบครัว ท้องถิ่น
2.ผู้เรียนได้เรียนในสิ่งที่มีคุณค่า มีความหมายต่อชีวิต ทำให้เห็นคุณค่า เห็นความสำคัญของสิ่งที่เรียน
3.ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ท้องถิ่นสู่ความรู้สากลสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวไปสู่สิ่งที่อยู่ไกลตัวได้อย่างเป็นรูปธรรม
4.เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรม ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นได้อย่างต่อเนื่อง
5.มีส่วนร่วมในองค์กร ท้องถิ่น บุคคล และครอบครัวในการพัฒนาท้องถิ่น
6.ได้เรียนรู้จากแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย ได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่งผลให้ เกิดทักษะการแสวงหาความรู้ เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
การส่งเสริมให้ครูผู้สอนได้ใช้แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ ปฏิบัติได้ดังนี้ตอบ ความสำคัญของแหล่งเรียนรู้ในการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน
ท้องถิ่นมีแหล่งการเรียนรู้ และผู้รู้ด้านต่างๆมากมาย มากกว่าที่ครูสอนท่องหนังสือ ถ้าเปิดโรงเรียนสู่ท้องถิ่นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากครูในท้องถิ่น จะมีครูมากมายหลากหลายเป็นครูที่รู้จริงทำจริง จะทำให้การเรียนรู้ไปสู่การปฏิบัติจริง การเรียนสนุกไม่น่าเบื่อ ที่สำคัญเป็นการปรับระบบที่มีคุณค่า เดิมการศึกษามองข้ามคุณค่าเหล่านี้ เมื่อผู้รู้ในท้องถิ่นเหล่านี้เป็นครูได้ จะเป็น การยกระดับคุณค่า ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของท้องถิ่นอย่างแรง เป็นการถักทอ ทางสังคม
แหล่งการเรียนรู้มีบทบาทในการให้การศึกษาแก่ผู้เรียน ทั้งในระบบและ นอกระบบ ดังนี้
1.แหล่งการเรียนรู้สามารถตอบสนองการเรียนรู้ที่เป็นกระบวนการ (Process Of Learning) การเรียนรู้โดยการปฏิบัติจริง (Learning By Doing) ทั้งจากท้องถิ่น ซึ่งเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ตนเองมีอยู่แล้ว
2.เป็นแหล่งกิจกรรม แหล่งทัศนะศึกษา แหล่งฝึกงาน และแหล่งประกอบอาชีพของผู้เรียน
3.เป็นแหล่งสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นโดยตรง
4.เป็นห้องเรียนธรรมชาติ เป็นแหล่งค้นคว้า วิจัย และฝึกอบรม
5.เป็นองค์กรเปิด ผู้สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเต็มที่และทั่วถึง
6.สามารถเผยแพร่ข้อมูลแก่ผู้เรียนในเชิงรุก เข้าสู่กลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึงประหยัดและสะดวก
7.มีการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
8.มีสื่อประเภทต่างๆ ประกอบด้วย สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเสริมกิจกรรมการเรียนการสอนและพัฒนาอาชีพ
สรุปความสำคัญของแหล่งการเรียนรู้ได้ว่า แหล่งการเรียนรู้ช่วยเชื่อมโยงเรื่องราวในท้องถิ่นสู่การเรียนรู้สากล พัฒนาคุณลักษณะและความคิด ความเข้าใจในคุณค่า และทัศนคติ ค่านิยม ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน รักการเรียนรู้ มีทักษะการแสวงหาความรู้ สามารถจัดการความรู้ ซึ่งมีความสำคัญและมีความหมายอย่างมากสำหรับผู้เรียน ดังนี้
1.ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสภาพชีวิตจริง สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ช่วยให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตน ครอบครัว ท้องถิ่น
2.ผู้เรียนได้เรียนในสิ่งที่มีคุณค่า มีความหมายต่อชีวิต ทำให้เห็นคุณค่า เห็นความสำคัญของสิ่งที่เรียน
3.ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ท้องถิ่นสู่ความรู้สากลสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวไปสู่สิ่งที่อยู่ไกลตัวได้อย่างเป็นรูปธรรม
4.เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรม ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นได้อย่างต่อเนื่อง
5.มีส่วนร่วมในองค์กร ท้องถิ่น บุคคล และครอบครัวในการพัฒนาท้องถิ่น
6.ได้เรียนรู้จากแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย ได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่งผลให้ เกิดทักษะการแสวงหาความรู้ เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
โดยการจัดทำหลักสูตรท้องถิ่นขึ้นมาเพื่อใช้ในการทำการเรียนการสอนอย่างแท้จริง ขอยกตัวอย่าง
” หลักสูตร การทำข้าวหลามน้ำหนาว”
ความสำคัญ
การจัดการของโรงเรียนในรูปแบบวิชาชีพและกลุ่มสนใจ เป็นการศึกษาที่จัดขึ้น
เพื่อให้การศึกษาด้านอาชีพ กฎหมาย อนามัย ตลอดจนวิชาความรู้วิชาอื่น ๆ แก่ประชาชนได้รับการส่งเสริมความเป็นอยู่โดยทั่วไป ได้มีการพัฒนาผู้เรียนให้สามารถ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้เห็นช่องทางการทำมาหากิน รู้จักคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น มีความรู้ ทักษะ และ ทัศนคติที่ดีในการทำงานและ สามารถนำไปประกอบอาชีพอิสระอย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น ตามความต้องการและ ความสนใจของตนเอง โดยเน้นให้นำทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด และวัสดุอื่น มาดัดแปลง ไม่ว่าจะเป็นวิทยากรหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ปัจจัยหนึ่งที่จะส่งผลให้กิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จได้ อย่างดีและมีประสิทธิภาพก็คือวิทยากรผู้ให้ความรู้จะต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจกิจกรรมการศึกษานอกโรงเรียน ตลอดจนระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ อย่างถูกต้องทั้งนี้เพื่อให้การเรียนการสอนได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและกลุ่ม นักเรียนที่มีความต้องการศึกษาสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้
เพื่อให้การศึกษาด้านอาชีพ กฎหมาย อนามัย ตลอดจนวิชาความรู้วิชาอื่น ๆ แก่ประชาชนได้รับการส่งเสริมความเป็นอยู่โดยทั่วไป ได้มีการพัฒนาผู้เรียนให้สามารถ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้เห็นช่องทางการทำมาหากิน รู้จักคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น มีความรู้ ทักษะ และ ทัศนคติที่ดีในการทำงานและ สามารถนำไปประกอบอาชีพอิสระอย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น ตามความต้องการและ ความสนใจของตนเอง โดยเน้นให้นำทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด และวัสดุอื่น มาดัดแปลง ไม่ว่าจะเป็นวิทยากรหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ปัจจัยหนึ่งที่จะส่งผลให้กิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จได้ อย่างดีและมีประสิทธิภาพก็คือวิทยากรผู้ให้ความรู้จะต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจกิจกรรมการศึกษานอกโรงเรียน ตลอดจนระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ อย่างถูกต้องทั้งนี้เพื่อให้การเรียนการสอนได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและกลุ่ม นักเรียนที่มีความต้องการศึกษาสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้
โดยเฉพาะประชาชนอำเภอน้ำหนาว มีการประกอบอาชีพเสริม ด้วยการทำข้าวหลาม โดยนำเอาวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น คือไม้ไผ่ และข้าวไร่ (พันธ์พญาลืมแกง) มาทำเป็นข้าวหลาม เพื่อรับประทานและทำจำหน่าย เป็นสินค้าประจำท้องถิ่น นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมประเพณีเผาข้าวหลามประจำปีของอำเภอน้ำหนาว ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนธันวาคมของทุกปีอีกด้วย
จุดมุ่งหมาย
1. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนในท้องถิ่นมีอาชีพเสริม
2. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำข้าวหลามน้ำหนาว และสามารถทำข้าวหลามได้
3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีการอนุรักษ์ประเพณีเผาข้าวหลาม ประจำปีของอำเภอน้ำหนาว
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำข้าวหลามน้ำหนาว
2. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการทำข้าวหลาม
3. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพได้
เนื้อหาของหลักสูตร
ประกอบด้วยเนื้อหา 2 เรื่อง ดังนี้
1. วัสดุ อุปกรณ์ ในการทำข้าวหลาม
2. ขั้นตอนในการทำข้าวหลาม ไส้ต่าง ๆ
เวลาเรียน
ภาคทฤษฎี 3 ชั่วโมง
ภาคปฏิบัติ 15 ชั่วโมง
สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้
1. ใบความรู้เรื่องการทำข้าวหลามน้ำหนาว
2. แหล่งการเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น การทำข้าวหลามน้ำหนาว
กิจกรรมการเรียนรู้
1. การเรียนรู้ทฤษฎี
2. การฝึกปฏิบัติ
3. ศึกษาดูงานแหล่งการเรียนรู้
การวัดและประเมินผล
วิธีวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ประกอบด้วย
1. การสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และการมีส่วนร่วม
2. การประเมินชิ้นงาน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำข้าวหลามน้ำหนาว
2. ผู้เรียนสามารถทำข้าวหลามน้ำหนาวได้
3. ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพได้
โครงสร้างเนื้อหาหลักสูตร
เรื่องที่ 1. วัสดุอุปกรณ์ในการทำข้าวหลาม จำนวน 5 ชั่วโมง วัสดุอุปกรณ์ในการทำข้าวหลาม ได้แก่ ไม้ไผ่ ข้าวเหนียว น้ำกะทิ เกลือป่น น้ำตาลทราย และเผือก/ถั่ว
เรื่องที่ 2 ขั้นตอนการทำข้าวหลาม จำนวน 13 ชั่วโมง
- การคัดเลือกชนิดไม้ไผ่
– การแช่ข้าวเหนียว
– การผสม น้ำกะทิ น้ำตาลทราย เกลือป่น เข้าด้วยกัน
- การนำข้าวเหนียว มาคลุกเคล้ากับส่วนผสม และใส่ไส้ชนิดต่าง ๆ
- การกรอกส่วนผสมใส่กระบอก
- การเผาข้าวหลาม
จึงสรุปได้ว่า การจัดทำหลักสูตรท้องถิ่นจะทำให้ครูผู้สอนได้มีแนวทางในการปฏิบัติ ในการจัดหาแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนได้อย่างเหมาะสมและมีหลักการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น